ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

โรงละครชาติแห่งแรกของกรุงเทพมหานคร

โรงละครชาติแห่งแรกของกรุงเทพมหานคร
                ถ้าลองศึกษากันให้ดีจะพบว่า   การบริหารชาติ   บ้านเมืองของผู้คนยุคก่อนๆนั้น  มีความลึกซึ้งยิ่งนัก   มีเรื่องเล่าพอฟังเพลินๆ  เกี่ยวกับโรงละครแห่งชาติของกรุงเทพมหานคร
                ราวปี  พ.ศ. ๒๔๗๗  ซึ่งเป็นยุคสมัยที่ประเทศสยามถูกภัยทางการเมืองคุกคาม   โดยระบบการล่าอาณานิคมของประเทศมหาอำนาจ   หลวงวิจิตวาทการขณะนั้นได้ย้ายจากกระทรวงการต่างประเทศรับตำแหน่งอธิการบดีกรมศิลปกรเป็นคนแรก   เห็นว่านโยบายประการหนึ่งที่จะช่วยแก้ไขสถานการณ์คับขันได้ คือ  “ ชาตินิยม”  เพราะการปลุกใจให้คนไทยรักชาติ   จะสามารถสร้างความรัก  สามัคคี  และเสียสละ  ให้เกิดขึ้นได้ในหมู่ชนชาติ
                ท่านได้เล็งเห็นว่า  สื่อที่จะเข้าถึงประชาชนได้ดีที่สุด  ก็คือละครเพลง  เมื่อได้ก่อตั้งโรงเรียนนาฏดุริยางค์ขึ้น   ท่านก็ได้ริเริ่มฝึกให้นักเรียนแสดงละครและร้องเพลงปลุกใจรักชาติ   แต่เมื่อพร้อมที่จะแสดงแล้ว   ก็ปรากฏว่าไม่มีโรงละครที่จะแดง   หลวงวิจิตรฯ จึงได้ของบประมาณสำหรับสร้างโรงละคร   ซึ่งท่านเขียนเล่าไว้ว่า   นอกจากจะไม่ได้แล้ว  ยังถูกเราะเย้ยหยันในที่ประชุมอธิการงบประมาณ   ถึงกับระบายความขมขื่นไว้ว่า   ท่านอยู่ในสภาพที่ยิ่งกว่าขอทาน   เพราะขอทานนั้น   เมื่อขอแล้วไม่ได้   ก็มิได้ถูกเย้ยหยันเหมือนท่าน   ท่านจึงมุมานะหาทางทำเอง   โยตั้งเสาไม้ไผ่ขึงเต็นท์เป็นหลังคา   ขอยืมเก้าอี้จากกระทรวงวัง   และเริ่มเปิดการแสดงละครปลุกใจรักชาติเรื่องแรก คือ “เลือดสุพรรณ” เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๙   ได้รับการตอบรับจากปวงชนอย่างหนาแน่น
                ครั้งหนึ่ง   ท่านเจ้าพระยาศรีธรรมมาธิเบศร์   ซึ่งว่าการกระทรวงการคลัง   ได้ชมละครและรับว่าจะจัดหางบประมาณก่อสร้างโรงละครให้หลวงวิจิตรฯ   เขียนไว้ว่า   ท่านดีใจนอนไม่หลับ   เพราะความฝันของท่านที่จะให้บ้านเมืองเรามีโรงละครแห่งชาติ   เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมอันงดงาม   ดังเช่น  นานาอารยประเทศกำลังจะเป็นความจริง   แต่เมื่อท่านไปพบท่านรัฐมนตรีคลัง   ก็ปรากฏว่าหางบประมารได้เพียง ๖,๕๐๐ บาท   ซึ่งก็ทำได้เพียงแต่ให้โรงละครของท่านมีเสาไม้และมุงหลังคาสันกะสี  แล้วเงินก็หมด
                แต่อุปสรรคไม่เคยทำให้ท่านย่อท้อ   เพราะละครเรื่อง “เลือดสุพรรณ”ยังคงได้รับความนิยมอย่างมากมาย   ผู้คนถึงกับนำปิ่นโตมานั่งรับประทานอาหารกันที่สนาม   เพื่อคอยเบียดเสียกันซื่อบัตรเข้าชมละคร   ในการแสดงคราวหนึ่ง   เมื่อที่นั่งเต็มหมด  ผู้ชมถึงกับพังประตูเข้าไปยืนดูการแสดง
                “เลือดสุพรรณ”ทำให้โรงละครแห่งชาติแห่งแรกเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ เรียกชื่อในสมัยนั้นว่า “หอประชุมศิลปกร”   หลังจากนั้น   ชาวกรุงเทพฯก็ได้ชมละครอีก ๙ เรื่อง เช่น  พระเจ้ากรุงธนฯ  ราชธน  เจ้าหญิงแสนหวี  น่านเจ้า  และมหาเทวี  เป็นต้น  ล้วนเป็นละครอิงประวัติศาสตร์ที่ต้องการเตือนให้ชาวกรุงรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระกษัตราธิราชเจ้า   และนักรบผู้กล้าในอดีตที่ได้เสียสละชีวิตเพื่อรักแผ่นดินให้เป็น  “ไทย” หลวงวิจิตรฯ  เคยคิดว่าโรงละครแห่งนี้คงจะรับใช้ราชการได้ราว ๕ ปี  แต่ปรากฏว่าได้มีอายุยืนยาวมากกว่า ๒๐ ปี   จนเกิดเพลิงไหม้
                อย่างไรก็ตาม  ใน พ.ศ. ๒๕๐๓   ท่านได้ของบประมาณจากรัฐบาลเพื่อก่อสร้างโรงละครแห่งชาติขึ้นใหม่   เป็นศรีสง่าแก่กรุงเทพมหานครอยุ่ในปัจจุบัน   ทำหน้าที่เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของบ้านเมืองเราต่อไปโดยมิให้สูญหายไปกับกาลเวลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น